
โรคเบาหวาน นับว่าเป็นโรคที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนที่มีชื่อว่า อินซูลิน มีหน้าที่ในการนำน้ำตาลในเลือดไปเลี้ยงอวัยวะภายในร่างกายเพื่อสร้างเป็นพลังงาน ผู้เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นั้น จะมีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ฮอร์โมนอินซูลินไม่สามารถทำหน้าที่นำน้ำตาลในเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างเต็มที่จึงส่งผลให้น้ำตาลในเลือดมีระดับที่สูงขึ้น
ถึงแม้เบาหวานประเภทที่ 2 มักจะเจอในคนที่มีน้ำหนักตัวมาก ซึ่งนำไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามเราสามารถสำรวจตัวเองได้ว่า เรามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานมากน้อยเพียงใด โดยสำรวจปัจจับเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้ดังนี้
ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
- อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 23
- สัดส่วนของรอบเอวต่อส่วนสูงมากกว่า 0.5
- มีประวัติคนในครอบครัวญาติสายตรงเป็นโรคเบาหวาน
- ช่วงตั้งครรภ์มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน
- ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคความดันสูง
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ เช่น ไขมันในเลือดสูงกว่าปกติ โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด









วิธีการรักษาโรคเบาหวาน
- ควบคุมอาหาร ให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมและจำกัดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น ของหวาน แป้ง ขนมปัง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ใช้ยา หากผู้ป่วยไม่สามารถรักษาระดับน้ำตาลในเลือดจากการควบคุมน้ำหนักและออกกำลังกายได้ ต้องใช้ยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อไม่ให้มีผลต่อตับหรือไต
โรคเบาหวาน อาจมีสัญญาณเตือนเบื้องต้นที่สามารถเจอได้ เช่น ปัสสาวะผิดปกติ น้ำหนักลงอย่างไม่มีสาเหตุ ตาพร่ามัว หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน ควรรีบเข้ามาตรวจสุขภาพกับแพทย์เพื่อหาสาเหตุของโรคและได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง แม้ว่าโรคเบาหวานจะไม่มีการรักษาที่หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้

